กฟกปข.ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมดูกิจกรรมโครงการงบกู้ยืม “โครงการแปรรูปข้าวเหนียวแดงและกะละแมเพื่อจำหน่าย”

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยนางสาวนารี อุทัยทิพวุฒิกร หัวหน้าสำนักงาน
พร้อมด้วยนางจริยาภรณ์เดชกุลถิรา พนักงานทั่วไป ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมดูกิจกรรมโครงการงบกู้ยืม
” โครงการแปรรูปข้าวเหนียวแดงและกะละแมเพื่อจำหน่าย ” ณ ม.5 ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด
👉 สรุปผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ถึง 25 มีนาคม 2568
💰ผลิตได้กาละแม 1,056 กิโลกรัม ขายได้กิโลกรัมละ 100 บาท เป็นเงิน 105,600 บาท
💰ผลิตขนมข้าวเหนียวแดงได้ 1,320 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 100 บาท เป็นเงิน 132,000 บาท
รวมรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 237,600 บาท
♻️ ต้นทุนเป็นค่าน้ำตาลปี๊บ 33,880 บาท
ข้าวเหนียว 21,560 บาท แบะแซ 7,040 บาท กะทิ 55,440 บาท งา 310 บาท ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้แก่ ค่าน้ำมันรถ 4,500 บาท
ค่าแรงงาน 16,000 บาท ค่าฟืนถ่าน 1,000 บาท ค่าถุง 2,000 บาท ค่าสติกเกอร์ 1,400 บาท
รวมต้นทุนการผลิต 143,130 บาท
🎉สรุปรายได้ที่เกิดขึ้นจากโครงการ ไตรมาสที่ 2
👉ขายกะละแมและข้าวเหนียวแดง 237,600 บาท
✍️ต้นทุนการผลิต 143,130 บาท
👏กำไร 94,470 บาท

📌ประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟู
และพัฒนาเกษตรกร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ครั้งที่ 3/2568 โดยมีนายสมยศ เผ่าพันธ์ ประธานอนุกรรมการฯ
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำหน้าที่ประธานการประชุม คณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัด
ประจวบคีรีขันธ์ ครั้งที่ 3/2568
👉ณ ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานสาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้ นายเอนก น้อยแสง ผู้แทนเกษตรกร ภาคกลาง ได้เข้าร่วมประชุมชี้แจงความคืบหน้าภารกิจสำนักงาน
และ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในที่ประชุมครั้งนี้ โดยที่ประชุมมีการพิจารณา ประกอบด้วย
1.พิจารณารับรองแผนงานการปฏิบัติงานของสำนักงานสาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประจำปีงบประมาณ 2568
2.พิจารณาอนุมัติการแยกองค์กรเกษตรกร
3.พิจารณารับรองการขึ้นทะเบียนหนี้
4.พิจารณาแผนโครงการสนับสนุนการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้านการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และด้านอื่นในภารกิจของสำนักงาน

💚ประชุมคณะกรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ประจำเดือนมีนาคม 2568💚

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568
นางสาวนารี อุทัยทิพวุฒิกร หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เข้าร่วมประชุมคณะกรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ประจำเดือนมีมาคม 2568 โดยมี
นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุม พร้อมมอบนโยบายข้อสั่งการ
ให้แก่ส่วนราชการในจังหวัดเพื่อขับเคลื่อนวาระเร่งด่วน ได้แก่ เรื่องน้ำ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวม
ข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่และจะมีการจัดเวทีระดมความคิดเห็น งบประมาณ เพื่อหาแนวทาง
ป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง และรายงานผลการขับเคลื่อนวาระเร่งด่วน Next Move Prachuap
ด้านการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภค โลจิสติกส์ การรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของปลาหมอคางดำ ภาวะแรงงานในภาคเกษตร ท่องเที่ยวและบริการ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว
การแข่งขันสปาร์ตัน หัวหิน 2025 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. – 1 มิ.ย.68 ที่โรงเรียนนายสิบทหารบก อ.หัวหิน และการส่งเสริม
การท่องเที่ยวทางทะเล การรายงานข้อมูลผลการขับเคลื่อนเกี่ยวกับเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
👉ณ ห้องประชุมเกาะหลัก ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สมาชิก กฟก.ร่วมใจ 💛ร่วมแรง 💪ปลูกหญ้าเนเปียร์ โครงการเลี้ยงโคขุน🐂

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยนางสาวนารี อุทัยทิพวุฒิกร หัวหน้าสำนักงาน
สาขาจ้งหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนางจริยากรณ์ เดชกุลถิรา พนักงานทั่วไป และลูกจ้าง ร่วมประชุมกลุ่ม
ส่งเสริมอาชีพชาวประมง ซึ่งกลุ่มได้รับงบกู้ยืม โครงการเลี้ยงโคขุนและในวันนี้ทางกลุ่มองค์กร มีกิจกรรมปลูกหญ้าเนเปียร์
โดยสมาชิกได้ร่วมใจ ร่วมแรง ได้มีการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยลงแรง ออกแรง ช่วยกันปลูกหญ้าเนเปียร์ ปากช่อง
ในพื้นที่ประมาณ 3 ไร่เพื่อเป็นอาหารเสริมให้โค ณ ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์

🙇กฟก.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชำระหนี้แทนเกษตรกร🙇

📣เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นางสาวนารี อุทัยทิพวุฒิกร หัวหน้าสำนักงาน
สาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มอบเช็คเงินชำระหนี้แทนเกษตรกรให้แก่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนาชุมชนบ้านพุตะแบก จำกัด
จำนวน 2 ราย กรณีบุคคลค้ำประกัน โดยได้รับเกียรติ์จากนายสายชล ชนะภัย ประธานสหกรณ์ฯ รับเช็คชำระหนี้แทนเกษตรกร
และนายเอนก น้อยแสง ผู้แทนเกษตรกรภาคกลาง ร่วมเป็นพยานตามที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณปีงบประมาณ 2568
ในการชำระหนี้แทน งบประมาณในการขำระหนี้แทนเป็นเงินจำนวน 271,647.62 บาท
ทั้งนี้ เกษตรกรสมาชิก พร้อมคนค้ำประกันได้ทำสัญญากู้ยืมเงินกับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัด
ประจวบคีรีขันธ์และได้จัดลงพื้นที่บ้านของผู้กู้และคนค้ำประกัน เพื่อทำแผนที่บ้านทั้งผู้กู้และคนค้ำประกัน ไว้ด้วยแล้ว

🌴ร่วมประชุมโครงการสัมนาจัดทำแผนยุทธศาสตร์ระดับจังหวัด ปีงบประมาณ 2568 และสร้างความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเษตรกรจังหวัด (ภาคกลาง)🌴

🌴เมื่อวันที่ 12-14 มีนาคม พ.ศ.2568🌴 นางสาวนารี อุทัยทิพวุฒิกร หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
สาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยพนักงานทั่วไป และลูกจ้างสำนักงาน เข้าร่วมประชุมโครงการสัมนาจัดทำแผน
ยุทธศาสตร์ระดับจังหวัด ปีงบประมาณ 2568 และสร้างความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟู
และพัฒนาเษตรกรจังหวัด (ภาคกลาง) โดยมี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ให้การต้อนรับ
นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาดังกล่าว
เพื่อให้คณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดมีความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ และสามารถ
ให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของสำนักงานสาขาจังหวัดให้มีแนวทางการดำเนินงานด้านการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพ
การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่เกษตรกร ได้อย่างถูกต้องมีประสิทธิภาพ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกิดกระบวนการมีส่วนร่วม
ในการจัดทำยุทธศาสตร์ระดับจังหวัด
👉ณ โรงแรมเดอะ รีเจ้นท์ ชะอำบีช รีสอร์ท จังหวัดเพชรบุรี

🌟กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร รักษาที่ดินและคืนความสุขให้เกษตรกร🌟

👉เมื่อวันที่ 10 และ 11 มีนาคม 2568👈
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยนางสาวนารี อุทัยทิพวุฒิกร หัวหน้าสำนักงาน
สาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
✍️ดำเนินการโอนหลักประกันกรรมสิทธิ์หลักทรัพย์ค้ำประกันรายนางสาวศินีนาท เปลี่ยนศรี และนางจินดา แปงเม
ตกมาเป็นของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตาม พรบ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จากการที่กองทุนฟื้นฟู
และพัฒนาเกษตรกร ชำระหนี้แทนเกษตรกร สถาบันเจ้าหนี้ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ โดยเกษตรกรสมาชิกสามารถทำสัญญา
เช่าซื้อทรัพย์สินกับกองทุนฯ และผ่อนชำระคืนกองทุนฯ ภายใน 5-20 ปี โดยไม่มีค่าบริการ (ดอกเบี้ย) และค่าปรับ
✍️ดำเนินการโอนหลักประกันคืนเกษตรกรสมาชิก ที่ได้ชำระหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สินเสร็จสิ้นแล้ว
รายนางสาวนนธยา สูงยิ่ง